ขอบ่นถึง Anime ซีซั่นนี้หน่อยนะ (Winter 2k8)

[Juro]

ถึงจะบอกว่าเป็นอนิเมะ ซีซั่นฤดูหนาวของปี 2008 แต่กลับเริ่มฉายช่วงเดือนมกราคม ปี 2009 เพราะฉะนั้นก็ไม่ต้องตกใจไปนะครับ
เรื่องที่จะบ่นนั้น ทุกเรื่องผมจับมาดูแล้วถึงได้ขอบ่น ไม่ได้เอาข้อมูลใครมาปะปน เพราะฉะนั้นผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้เลยนะครับ

เอ้า เพื่อไม่ให้เสียเวล่ำเวลา มาเริ่มกันเลยดีกว่า

1.Akikan (ออกอากาศ BS11)
สาวน้อยเมล่อนโซดากับไดอิจิ คาเครุคุง ที่ได้นักพากษ์อย่าง Fukuyama Jun ที่เคยให้เสียงพากษ์ "ลูลุช" ใน "Code Geass" ทั้ง 2 ภาค มาร่วมพากษ์ในเรื่องนี้ด้วย ส่วน บท Melon ก็ได้ Narita Sayaka มาให้เสียง ส่วนชื่อเรื่อง Akikan นั้น แปลว่า กระป๋องเปล่า
ผมรับชมมาได้ 2 ตอนแล้ว ก่อนอื่นเลยก็ต้องบอกว่า ครั้งแรกที่ได้ฟังเสียงของ คาเครุนั้น ผมบ่นกับคัวเองว่า "นี่มันต้องเป็นเสียงของ Fukuyama Jun แน่ๆเลยแหะ" และก็ไม่ผิดคาด
เรื่องราวของ Akikan นั้น กล่าวถึงไดอิจิ คาเครุ เด็กหนุ่มโชคดีที่ซื้อน้ำเมลอนโซดาจากเครื่องขายอัตโนมัติ แต่ปรากฏว่ากระป๋องเจ้ากรรมดังกล่าวนั้นดันกลายร่างเป็นผู้หญิงไปซะได้ ส่วนชื่อ "Melon" นั้น มากจากพระเอกที่เป็นคนตั้งให้เอง ในช่วงท้ายของตอนที่ 1 แล้วยังต้องเข้าไปพัวพันกับสงคราม(?) ระหว่าง กระป๋องอลูมิเนียมกับกระป๋องเหล็กอีก ผลงานดัดแปลงมาจากไลท์โนเวลของ อ.Ranjo Riku โดยงานภาพทั้งหมดได้สตูดิโออย่าง Brains Base และผู้กำกับอย่าง Himaki Yuji คาดว่าไม่น่าจะยาวเกิน 13 ตอนก็น่าจะจบได้ ผลสรุปคะแนนที่ให้ออกมา เป็นดังนี้

เนื้อเรื่อง : B+
เนื้อเรื่องอยู่ในระดับน่าสนใจพอสมควร
งานภาพ : B-
น่าจะทำได้ดีกว่านี้ ทำให้อรรถรสในการชมตกลงไปบ้าง แต่ก็ไม่ถึงกับน่าเกลียดอะไร
งานเสียง : B
โดยรวมแล้ว ทำออกมาได้ดีทีเดียว
เพลงประกอบ : C
ทำได้ธรรมดาไปมากเลยทีเดียว
โดยรวม : B-
คะแนนออกมาเป็น B- จัดอยู่ในระดับ ดูสนุกได้ระดับหนึ่งเท่านั้น

2.White Album (ออกอากาศ TV Kanagawa)
ผลงานดัดแปลงจากเกมอมตะของค่าย Leaf (ค่ายเดียวกับที่ทำ ToHeart ทั้ง 2 ภาค แน่นอนว่า H ทั้งสองเกมส์) รับชมไปได้ 2 ตอนแล้วแต่กลับทำให้ผมรู้สึกว่า ไม่อยากจะชมต่อซะแล้วสิ เนื้อเรื่องดำเนินไปอย่างช้าๆ ทึมๆ และดูไม่ค่อยจะน่าสนุกเืท่าไหร่นักสำหรับใน 2 ตอนแรกเท่านั้น เหตุผลที่ทำให้ผมยังทนดูต่อไปได้เพราะระดับของนักพากษ์อย่าง Hirano Aya และ Mizuki Nana ที่เข้ามาประชันบทบาทกันในเรื่องนี้ ส่วนคนพากษ์พระเอก ฟูจิ โทยะ นั้นเป็น Maeno Tomoaki ที่เคยฝากผลงานไว้ใน Ga-Rei Zero
เนื้อเรื่องเป็นยังไง ผมเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน รู้แค่ว่าพระเอกน่าจะต้องตัดสินใจเลือกระหว่าง Morikawa Yuki (CV.Hirano Aya) กับ Ogata Rina (CV.Mizuki Nana) ค่อนข้างแน่ ตอนนี้ผมยังจับจุดอธิบายอะไรได้ไม่ถูกเหมือนกัน คาดว่าจะไปได้ไม่เกิน 13 ตอน ผลงานภาพได้สตูดิโอชื่อดัง(?)อย่าง Seven Arcs ที่เคยทำผลงานอย่าง Sekirei และ Nanoha มาแล้ว เพลง OP อย่าง Shin Ai ทำออกมาได้ดีทีเดียว แต่ ED นั้นผมกลับเฉยๆ ผลสรุปคะแนนก็เลยออกมาตามนี้

เนื้อเรื่อง : C+
ธรรมดาไปมากจนไม่อาจจะให้คะแนนได้มากกว่านี้
งานภาพ : B+
ไม่แย่และไม่ได้ดีเลิศเลอ
งานเสียง : A
ถือว่าทำได้ยอดเลยครับสำหรับการดึงเอาสองนักพากษ์ระดับเทพไอด้อลมาประชันกันได้
เพลงประกอบ : A-
OP ทำออกมาได้ดี ในส่วนของเพลง แต่ภาพประกอบยังเฉยๆ ส่วน ED ไม่มีอะไรโดดเด่น
โดยรวม : B
คะแนนออกมาเป็น B จัดอยู่ในระดับ ดูสนุกพอสมควร

3.Asu no Yoichi! (ออกอากาศ TBS/BS-i)
สำหรับเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ดูแล้วธรรมดาที่สุดที่เปิดตัวมาในซีซั่นนี้ โดยเฉพาะส่วนของเนื้อเรื่องที่มีประมาณว่า พระเอก Karasuma Yoichi นั้นเป็นนักดาบที่ฝึกอยู่บนภูเขา และก็บังเอิญเก่งเกินไปเลยถูกพ่อตัวเอง(ถีบ)ส่งตัวลงมาเข้าเมือง เพื่อมาอยู่บ้านเดียวกับ 4 สาว จนเกิดเป็นฮาเร็มขนาดย่อมๆขึ้น แน่นอนว่าฟังพล็อตเรื่องแล้วก็ต้องบอกว่าพล็อตธรรมดามาก ในส่วนของนักพากษ์นั้น พระเอกอย่าง Karasuma Yoichi ได้
Okamoto Nobuhiko มาพากษ์ ซึ่งสำหรับเค้าคนนี้ต้องถือว่ามีงานออกมาถึงสองเรื่องด้วยกันในอนิเมะซีซั่นนี้ เพราะว่าไปรับบทพากษ์ใน Akikan ไว้ด้วย ส่วนฟากนางเอก เป็น Satou Rina มาให้เสียงพากษ์เป็น Ikaruga Ibuki ซึ่งเธอก็ฝากผลงานไว้เด่นๆหลายเรื่องอันได้แก่ Negima! ซึ่งเธอรับบทพากษ์เป็น เนกิ สปริงฟิลด์ รวมถึงพากษ์เป็น อามามิยะ ใน Nogizaka no Himitsu ด้วย เรียกได้ว่าผลงานการพากษ์ถือว่าสอบผ่าน ด้านงานภาพได้ AIC Production ซึ่งเคยฝากผลงานลือเลื่องอย่าง เงือกสาวยากูซ่า Seto no Hanayome เอาไว้ รวมถึงงาน Digital Painting ไว้อีกมากมาย เอาล่ะมาสรุปคะแนนกันเลยละกัน

เนื้อเรื่อง : C
ธรรมดามากๆจนไม่น่าเชื่อว่าจะถูกหยิบมาทำเป็นอนิเมะ
งานภาพ : A-
ถ้าใครได้ชมเงือกสาวมาแล้วก็คงไม่ต้องพูดกันมาก AIC ยังคงทำงานได้อย่างฝีมือไม่ตก โดยฉากต่อสู้ยังคงความงามและสมบูรณ์ไว้ได้ดี
ออกแบบตัวละครออกมาได้ดีทีเดียว แต่คาดความสมดุลของฉาก CG ที่พอนำมาเทียบกับงานวาดยังคงขัดกันเล็กๆ เท่านั้นเอง
งานเสียง : B+
สอบผ่านครับ แต่ไม่ได้ดึงดูดใจอะไรมากนัก
เพลงประกอบ : B+
โดยรวมทำออกมาได้ดี แต่กลับไม่มีอะไรโดดเด่นขึ้นมา จึงได้ไปแค่ B+ เท่านั้นเอง
โดยรวม : B
คะแนนออกมาเป็น B จัดอยู่ในระดับ ดูสนุกพอสมควร และคาดว่าอาจจะยาวถึง 26 ตอนเลยก็ได้

นี่เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวเท่านั้น กรุณาไปชมเองก่อน แล้วจะเห็นด้วยหรือไม่นั้น ผมยินดีรับฟังครับ
(เดี๋ยวมาต่อ มีอีกหลายเรื่องที่ยังไม่ได้บ่นให้ฟัง)

[MG_PlayBoy]

ไม่เคยดูเลยทั้ง 2 เรื่องที่กล่าวมา เหอๆ
รอสอบเสร็จก่อนจะแวะไปโหลดมาดู

[Juro]

4. Ride Back (ออกอากาศ Chiba TV)
นี่เป็นอนิเมะที่ผมรอคอยเลยทีเดียวสำหรับในซีซั่นนี้ เพราะฉะนั้นคะแนนอาจจะสูงหน่อย (ฮา+ แต่ไม่ได้ลำเอียงนะ ให้ลองไปชมเองแล้วจะคิดแบบผม) เนื้อเรื่องเริ่มต้นในปี 2025 เกี่ยวกับการต่อต้านรัฐบาลของกลุ่มนักศึกษาหัวปฏิวัติ ท่ามกลางความวุ่นวายที่เกิดขึ้น โองาตะ ริน (ให้เสียงพากษ์โดย Mizuki Nana อีกแล้ว เธอเองก็พากษ์ทั้งในเรื่องนี้และก็ใน White Album ด้วย เรียกว่างานชุกมือดีจริงเชียว) เคยเป็นนักบัลเล่ต์อนาคตไกล แต่โชคชะตากลับเล่นตลกเมื่อเธอประสบอุบัติเหตุจนไม่อาจจะใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางแสงไฟบนเวทีได้อีก หลังจากนั้นเธอก็ได้พบกับยานพาหนะที่ใช้ชื่อเรียกว่า RideBack และทำให้เธอกลายเป็นคนดังในหมู่คณะปฏิวัติไปในทันทีทันใด ท่ามกลางไฟสงครามที่ลุกโชน เบื้องหลังการปฏิวัติครั้งนี้ ยังมีอะไรซ่อนอยู่อีกมากมาย
Anime ดัดแปลงจากผลงานชื่อเดียวกันของ อ.Kasahara Tetsuro ซึ่งวาดลงในนิตยสารอย่าง Ikki ของสำนักพิมพ์ Shogakukan ออกมาแล้วทั้งหมด 9 เล่ม ผลงานภาพได้สตูดิโออย่าง Madhouse (ซึ่งฝากผลงานไว้มากมาย อาทิเช่น Trinity Blood, Trigun, Strawberry Panic, Pita Ten, Nana, Ichigo 100% และ Card Captor Sakura) มาทำให้ เรียกได้ว่าหายห่วง ผู้กำกับเป็น Takahashi Atsushi มือใหม่หัดขับแต่ผลงานออกมา 1 ตอน ทำได้น่าประทับใจ ไม่เลวๆ มาสรุปคะแนนกันเลย

เนื้อเรื่อง : A
พูดได้คำเดียวว่า "นี่คืออนิเมะน้ำดีประจำซีซั่นนี้เลยทีเดียวล่ะ"
งานภาพ : A-
อย่างที่เกริ่นไว้เบื้องต้น หายห่วงๆ CG ทำออกมาได้ดี แต่ก็ตามมาตรฐานอนิเมรายสัปดาห์ที่ยังคงขัดๆกับฉากวาดอยู่บ้าง รวมถึงรายละเอียดเล็กๆอื่นๆ ที่ยังเก็บได้ไม่สะอาดนัก แต่คาดว่าคงเอาไปแก้ใน DVD
งานเสียง : B+
สอบผ่านครับ
เพลงประกอบ : B
ไม่มีจุดน่าสนใจเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่ได้แย่
โดยรวม : A-
คะแนนออกมาเป็น A- จัดอยู่ในระดับ ถ้าพลาดไปก็คงเสียดายนิดๆ ตอนนี้ทางสตูดิโอประกาศออกมาว่าจะทำเพียง 12 ตอนจบเท่านั้น แต่ถ้าเสียงตอบรับดีเราคงได้เห็นภาคพิเศษหรือภาคต่อไปออกมาให้ได้ชมกันแน่ๆเลย

5.Sora o Miageru Shōjo no Hitomi ni Utsuru Sekai (ออกอากาศ Chiba TV)
เรื่องสุดท้ายที่จะขอกล่าวถึงในอนิเมะซีซั่นนี้ ผลงานจากฟาก Kyoto Animation (ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมตามผลงานของ KyoAni มานานตั้งแต่สมัย Air ฉะนั้นคะแนนที่ออกมาอาจจะสูงผิดหูผิดตาเรื่องอื่นๆหน่อย แต่ผมไม่ได้ลำเอียงแน่นอนครับ) ซึ่งแน่นอนว่าขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ต้องพูดอะไรมากมาย
เนื้อเรื่องกล่าวถึง Hideka Yumemi (ให้เสียงพากษ์โดย Aizawa Mai ซึ่งร่วมงานกับ KyoAni อยู่บ่อยๆ ทั้งใน Clannad เอย Lucky Star เอยก็ดี) เด็กสาวผู้มีพลังที่สามารถทำให้มองเห็นโลกอีกใบบนท้องฟ้า จนทำให้เธอเกิดกลัวตัวเองขึ้นมาและต้องถือร่มอยู่ตลอดเวลา กับ Munto (ให้เสียงพากษ์โดย Daisuke Ono แน่นอนว่าร่วมงานกับ KyoAni มาก่อนเช่นกันในบท Koisumi หนุ่มน้อยพลังจิตจาก Suzumiya Haruhi no Yuuttsu) จักรพรรดิ์แห่งโลกเวทย์มนต์ซึ่งพยายามแก้ไข ไม่ให้สวรรค์ต้องตกลงไปยังโลกเบื้องล่าง เพื่อการณ์นั้น Munto พยายามหาทางติดต่อกับ Yumemi เพราะเธอคือบุคคลที่ชะตากำหนด และเชื่อว่า Yumemi จะสามารถทำให้ Akuto(พลังของทางโลกเวทย์มนต์) ฟื้นคืนกลับมาได้ และหาก Akuto กลับคืนมาดังเดิมสวรรค์ก็จะไม่ต้องตกลงไปยังโลกเบื้องล่าง
ผลงานรีเมคจาก Munto 2 : Beyond the Walls of Time (OAV) ซึ่งเป็นงานก้นหีบของ KyoAni เอง และได้ผู้กำกับที่เคยกำกับใน Munto ทั้ง 2 ภาค ก็คือ Kigami Yoshiji แน่นอนว่านอกจากกำกับแล้ว ยังเป็นคนเขียน Storyboard เองด้วย งานเสียงได้ Eufonius มาทำเพลง OP ให้ ซึ่งก็ออกมาดีทีเดียว ผลคะแนนก็เลยเป็นไปตามนี้เน่อ

เนื้อเรื่อง : B+
การนำผลงานตัวเองมารีเมคใหม่ ไม่ได้ดึงดูดใจอะไรเท่าที่ควร แต่เนื้อเรื่องก็ยังชวนน่าติดตามอยู่ดี
งานภาพ : A
ระดับ KyoAni แล้วคงไม่ต้องมีคำบรรยายอะไรใดๆ และเป็นการพิสูจน์ศักยภาพของ Kyoto Animation ด้วยว่า มีความพร้อมที่จะทำอนิเมะ 2 เรื่องพร้อมๆกัน นั่นคือ Clannad ~After Story~ กับเรื่องนี้ ตินิดเดียวเท่านั้นคือ ตัวละครในบางฉากยังไม่ค่อยสมดุลนัก ส่วนที่เหลือยอดเยี่ยมมากๆครับ (โดยเฉพาะฉากต่อสู้ ที่ทำออกมาได้ยอดจริงๆ ไปหาชมดูนะครับ)
งานเสียง : A-
จัดอยู่ในขั้นดีครับ
เพลงประกอบ : A
ผมชอบทั้ง OP และ ED เลยครับ ทำออกมาได้ยอดมาก
โดยรวม : A
คะแนนออกมาเป็น A จัดอยู่ในระดับ ถ้าพลาดไปก็คงเสียดายครับ

[yoman501]

ก็ยังงงๆ

[bleachsoul]

ไม่รู้จักซักเรื่อง

[opps]

แล้วแต่คนชอบด้วยละมั้งครับเหอๆ ผมให้เกรดแต่ละเรื่องไม่ได้ด้วยสิ

ปีนี้ก็รอต่อไปยังมีที่ยังไม่กำหนดออกฉายอีก

[valess]

Asu no Yoichi! ได้ดูไปนิดนึงเอง ภาพก็พอโอล่ะนะโดยส่วนตัว
แต่ไม่ค่อยชอบแนวนี้เท่าไรแฮะ ขอบายไปแล้ว ส่วนเรื่องอื่นไม่รู้เลยอ่ะ
ไม่รู้จักสักเรื่อง ส่วนเรื่องแรกก็ดองต่อไป ฮ่าๆ

[billjung]

เ้ราดูไปเรื่อยอะ --

[rang1412]

ผมได้ดุเเค่สองเรื่องเองครับ
1.Akikan
3.Asu no Yoichi!
ก็สนุกนะแต่เรื่องที่เหลือยังไม่ได้ดูครับ

[kaninsaeko]

Akikan
Asu no Yoichi!

อะนะเอาใจชายหนุ่ม

[freeze-ahh]

Akikan นี่กำลังอยากดูเลยค่ะ

น่ารักมากๆ ~

[bleachsoul]

ที่พูดมานี่น่าดูทั้งนั้นแหละสำหรับผมนะ

[LXZaa1524]

ดูได้หมดแหละคับ ไม่มีปัญหา

[hikkiyo1198]

Asu no Yoichi! แบบมังงะสนุกกว่าอีกผมว่า

Ride Back ของที่นี้ผมโหลดไม่ได้ อยากดูอ้า

Kyoto Animation เป็นค่ายที่ผมยอมรับว่าเทพสุดๆ ในเรื่องอนิเมะ มากี่เรื่องนี้ดังหมดแถมดังพลุแตกซะด้วย

Sora o Miageru Shōjo no Hitomi ni Utsuru Sekai อุส่าโหลดแบบPMP มา PSP
ดันตกนํา เหอๆ ชีวิต PSP ผมมีไว้สําหรับดูอนิเมะกับฟังเพลงไปแล้ว

[sniperkung]

ส่วนมากแบบมังงะจะสนุกกว่ามากครับ ส่วนเอามาทำเป็น เมะ นั้น ไปคนละทิศละทางเลยครับ