สาระน่ารู้ หรือ รกสมอง
+84
kittycat
Shine
pinkykiller
nettokung
lukkylovelove
narutosssss
debinmbk
suma
lonly_zct
oGuNo
lek00012
closebronn
ATdarkness
apichai38024
HelLSpeeD
kopjung
sniperkung
Ryuichi
ormom
satkung
gahana
opal
Ai_NgOW
Sagistarius
Dreamer31
freefool
pjkub
himaxza1989
Cheina
kritkok
bba50
kokyokung01
GolfZa
Damage
redfield
kimimaru
yanman
gunner09
bleachsoul
tidcartoon
Indyman
akiramaster
wanvip
torressanz
nanajob
lek_en
finaltactic
deoza
kamikazeatk
slayers
Bleach_kuchiki
naruemit
as89477261
koolwer
bleach191
Delacroix
melloween
kiminosora
AlonsoQ
taiton
TergViteZa
amuro
yamakizawa
rockza00
ult_traman
rujipond
webreg22080
zenjedsada
ZeroForst
ZeeS
RABYO
asasas
doraemon8746
tanawat64
igt9016
^0^
yoman501
newlovenut14
valess
Suku
UniVersE
Rapiz
DEATH
MG_PlayBoy
88 posters
หน้า 1 จาก 5
หน้า 1 จาก 5 • 1, 2, 3, 4, 5
สาระน่ารู้ หรือ รกสมอง
อาจจะไม่เกี่ยวกับการ์ตูนเท่าไหร่ แต่นักท่องเน็ตและวัยรุ่นทั้งหลายควรรู้เอาไว้
ศัพท์สแลง
ศัพท์สแลง (อังกฤษ: slang) และ สำนวน (idiom) เป็นคำศัพท์หรือสำนวนที่ไม่ได้เป็นศัพท์ปกติที่ใช้กันอยู่ตามความหมายตรงตัว แต่เป็นคำศัพท์ที่ไม่เป็นทางการโดยทั่วไปอาจจะเกิดจากการสร้างศัพท์หรือสำนวนใหม่โดยการ เปลี่ยนคำ เปลี่ยนความหมาย และความขบขันหรือน้ำเสียงในการพูด ศัพท์หรือสำนวนเหล่านี้อาจจะใช้เฉพาะคนในวงการใดวงการหนึ่ง หรืออาชีพใดอาชีพหนึ่ง ศัพท์สแลงบางครั้งอาจใช้เพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แล้วก็หายไป แต่บางครั้งอาจยาวจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของภาษาพูดเลยก็ได้ เช่น คำว่า ตุ๊ด เป็นต้น
ตัวอย่าง
แห้ว (ชื่อพันธุ์ไม้ หัวใช้กินได้) หมายถึง ไม่สมหวัง
บ๊วย (ชื่อพันธุ์ไม้ ผลใช้กินได้) หมายถึง ที่สุดท้าย หรือ ที่โหล่
เชย หมายถึง ไม่ทันสมัย มีที่มาจากตัวละครชื่อลุงเชยในนิยายชุดสามเกลอ ซึ่งมักจะทำอะไรเปิ่นๆ ไม่ทันสมัย
เด็กซิล หมายถึง ผู้ที่ไม่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ติดต่อกันหลายปี มาจากคำว่า ฟอสซิล
แอ๊บแบ๊ว หมายถึง การทำหน้าตาให้ดูน่ารักหรืออ่อนกว่าวัยจนเกินความจำเป็น
เกรียน (สแลงอินเทอร์เน็ต) หมายถึง พวกที่ไม่ใช้สมองในการคิด ฯลฯ
เด็กแว้น หมายถึง กลุ่มวัยรุ่นที่ชอบขับจักรยานยนต์แข่งกันบนถนนใหญ่
สก๊อย หมายถึง ผู้ที่ซ้อนท้าย เด็กแว้น มักจะเป็นผู้หญิง
ชวด หมายถึง ไม่ได้สิ่งที่คาดหวัง
แอ๊บแบ๊ว
แอ๊บแบ๊ว เป็นคำที่เรียกบุคคลที่ทำตัวให้ดูน่ารัก คิกคุ เกินไป(เกินวัยของตนเอง) คำว่าแอ๊บแบ๊วใช้ในหน้าที่ของคำวิเศษณ์ โดยที่มาของคำว่า "แอ๊บ" อาจมาจากคำว่า "แอบนอร์มอล" (abnormal) ในภาษาอังกฤษที่แปลว่าไม่ปกติ ส่วนคำว่า "แบ๊ว" มาจากคำว่า "บ้องแบ๊ว" นอกจากนี้คำนี้ยังมีการกล่าวโดย สุทธิชัย หยุ่น ที่บล็อกส่วนตัวของเขาในหัวข้อ ปฏิวัติ "แอ๊บแบ๊ว" 6 ชั่วโมงที่โรงแรม 5 ดาวกลางมะนิลา นอกจากนี้การกระทำแล้ว แอ๊บแบ๊วยังใช้ในอีกความหมายหนึ่งในรูปแบบของการเขียนโดยเฉพาะในภาษาแชต โดยเรียกว่าภาษาแอ๊บแบ๊ว มีลักษณะคล้าย ลีท โดยเปลี่ยนรูปแบบการสะกดคำและตัวอักษรให้ต่างจากเดิมในแนวบ้องแบ๊วเช่นคำว่า "ทำไม" เป็น "ทามมาย" การแอ๊บแบ๊วนี้มาจากสำเนียงครูไทยที่สอนอยู่ในโรงเรียนานาชาติ ซึ่งจะมีสำเนียงที่ไม่ใช่ไทยแท้โดยตรง
ลีท
ลีท (leet หรือ 1337) เป็นลักษณะของภาษาที่ใช้กันในทางอินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะในเกมออนไลน์ ซึ่งมีลักษณะคล้ายภาษาแชต โดยลักษณะลีทจะเป็นการดัดแปลงตัวอักษร ตัวเลข สัญลักษณ์ มาใช้ผสมคำในการใช้ภาษาเขียน มักจะใช้ในการส่งข้อความหากัน เพื่อประหยัดเวลาในการพิมพ์ หรือเพื่อความสนุก หรือในบางครั้งอาจเป็นการซ่อนข้อความไม่ให้ผู้ใหญ่จับได้ ที่มาของคำว่า leet นั้น มาจากคำว่า elite (อีลีท หมายถึง ผู้ที่ผ่านการคัดสรร)
ตัวอย่างของการเขียนลีท
leet 1337
hELLO 07734 (อ่านกลับหัว)
seven se7en
f/ph : phone fone
s / c : sex cex
สุภาษิต
ความหมาย ได้แก่คำพูดที่พูดออกมา ไม่ว่าจะเป็นทำนองสำนวนโวหาร หรือคำพังเพย แต่มีเนื้อความหรือความหมายที่ดี เป็นคำตักเตือนสั่งสอน และสะกิดใจให้ระลึกถึงอยู่เสมอ มีอยู่ 2 ประเภท คือ
1. คำสุภาษิตประเภทที่ พูด อ่าน หรือเข้าใจเนื้อความได้ทันที โดยไม่ต้องแปลความหมาย ตีความหมายเช่น ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
2. คำสุภาษิตประเภทที่ พูด อ่าน หรือฟังแล้วยังไม่เข้าใจเนื้อความนั้นในทันที ต้องนึกตรึกตรอง ต้องแปลความ ตีความหมายเสียก่อนจึงจะทราบเนื้อแท้ของคำเหล่านั้น เช่น ผีบ้านไม่ดีผีป่าก็พลอย
สำนวน
ความหมาย ได้แก่คำที่พูดหรือกล่าวออกมาทำนองเป็นโวหาร เป็นคำพังเพยเปรียบเทียบ จึงฟังแล้วมักจะ ไม่ได้ความหมายของตัวมันเอง ต้องนำไปประกอบกับบุคคล กับเรื่อง หรือเหตุการณ์จึงจะได้ความหมายเป็น คติ เตือนใจเช่นเดียวกับคำที่เป็นสุภาษิต
คำพังเพย
หมายถึง ถ้อยคำที่เรียบเรียงขึ้นมาเป็นความหมายกลาง ๆ คือ ไม่เน้นการสั่งสอน แต่ก็แฝงคติเตือนใจหรือ ข้อคิดสะกิดใจให้นำไปปฏิบัติได้ และ เนื้อหาของใจความนั้นก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นความดี หรือ ความจริงแท้ แน่นอน
คำคม
หมายถึง ถ้อยคำที่คิดขึ้นมาในปัจจุบันทันด่วน เป็นถ้อยคำที่หลักแหลม ซึ่งสามารถเข้ากับเหตุการณ์นั้น ได้อย่างเหมาะเจาะ ทั้งยังชวนให้คิด ถ้าพูดติดปากกันต่อไปก็จะกลายเป็นสำนวนไปได้
ศัพท์สแลง
ศัพท์สแลง (อังกฤษ: slang) และ สำนวน (idiom) เป็นคำศัพท์หรือสำนวนที่ไม่ได้เป็นศัพท์ปกติที่ใช้กันอยู่ตามความหมายตรงตัว แต่เป็นคำศัพท์ที่ไม่เป็นทางการโดยทั่วไปอาจจะเกิดจากการสร้างศัพท์หรือสำนวนใหม่โดยการ เปลี่ยนคำ เปลี่ยนความหมาย และความขบขันหรือน้ำเสียงในการพูด ศัพท์หรือสำนวนเหล่านี้อาจจะใช้เฉพาะคนในวงการใดวงการหนึ่ง หรืออาชีพใดอาชีพหนึ่ง ศัพท์สแลงบางครั้งอาจใช้เพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆ แล้วก็หายไป แต่บางครั้งอาจยาวจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของภาษาพูดเลยก็ได้ เช่น คำว่า ตุ๊ด เป็นต้น
ตัวอย่าง
แห้ว (ชื่อพันธุ์ไม้ หัวใช้กินได้) หมายถึง ไม่สมหวัง
บ๊วย (ชื่อพันธุ์ไม้ ผลใช้กินได้) หมายถึง ที่สุดท้าย หรือ ที่โหล่
เชย หมายถึง ไม่ทันสมัย มีที่มาจากตัวละครชื่อลุงเชยในนิยายชุดสามเกลอ ซึ่งมักจะทำอะไรเปิ่นๆ ไม่ทันสมัย
เด็กซิล หมายถึง ผู้ที่ไม่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ติดต่อกันหลายปี มาจากคำว่า ฟอสซิล
แอ๊บแบ๊ว หมายถึง การทำหน้าตาให้ดูน่ารักหรืออ่อนกว่าวัยจนเกินความจำเป็น
เกรียน (สแลงอินเทอร์เน็ต) หมายถึง พวกที่ไม่ใช้สมองในการคิด ฯลฯ
เด็กแว้น หมายถึง กลุ่มวัยรุ่นที่ชอบขับจักรยานยนต์แข่งกันบนถนนใหญ่
สก๊อย หมายถึง ผู้ที่ซ้อนท้าย เด็กแว้น มักจะเป็นผู้หญิง
ชวด หมายถึง ไม่ได้สิ่งที่คาดหวัง
แอ๊บแบ๊ว
แอ๊บแบ๊ว เป็นคำที่เรียกบุคคลที่ทำตัวให้ดูน่ารัก คิกคุ เกินไป(เกินวัยของตนเอง) คำว่าแอ๊บแบ๊วใช้ในหน้าที่ของคำวิเศษณ์ โดยที่มาของคำว่า "แอ๊บ" อาจมาจากคำว่า "แอบนอร์มอล" (abnormal) ในภาษาอังกฤษที่แปลว่าไม่ปกติ ส่วนคำว่า "แบ๊ว" มาจากคำว่า "บ้องแบ๊ว" นอกจากนี้คำนี้ยังมีการกล่าวโดย สุทธิชัย หยุ่น ที่บล็อกส่วนตัวของเขาในหัวข้อ ปฏิวัติ "แอ๊บแบ๊ว" 6 ชั่วโมงที่โรงแรม 5 ดาวกลางมะนิลา นอกจากนี้การกระทำแล้ว แอ๊บแบ๊วยังใช้ในอีกความหมายหนึ่งในรูปแบบของการเขียนโดยเฉพาะในภาษาแชต โดยเรียกว่าภาษาแอ๊บแบ๊ว มีลักษณะคล้าย ลีท โดยเปลี่ยนรูปแบบการสะกดคำและตัวอักษรให้ต่างจากเดิมในแนวบ้องแบ๊วเช่นคำว่า "ทำไม" เป็น "ทามมาย" การแอ๊บแบ๊วนี้มาจากสำเนียงครูไทยที่สอนอยู่ในโรงเรียนานาชาติ ซึ่งจะมีสำเนียงที่ไม่ใช่ไทยแท้โดยตรง
ลีท
ลีท (leet หรือ 1337) เป็นลักษณะของภาษาที่ใช้กันในทางอินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะในเกมออนไลน์ ซึ่งมีลักษณะคล้ายภาษาแชต โดยลักษณะลีทจะเป็นการดัดแปลงตัวอักษร ตัวเลข สัญลักษณ์ มาใช้ผสมคำในการใช้ภาษาเขียน มักจะใช้ในการส่งข้อความหากัน เพื่อประหยัดเวลาในการพิมพ์ หรือเพื่อความสนุก หรือในบางครั้งอาจเป็นการซ่อนข้อความไม่ให้ผู้ใหญ่จับได้ ที่มาของคำว่า leet นั้น มาจากคำว่า elite (อีลีท หมายถึง ผู้ที่ผ่านการคัดสรร)
ตัวอย่างของการเขียนลีท
leet 1337
hELLO 07734 (อ่านกลับหัว)
seven se7en
f/ph : phone fone
s / c : sex cex
สุภาษิต
ความหมาย ได้แก่คำพูดที่พูดออกมา ไม่ว่าจะเป็นทำนองสำนวนโวหาร หรือคำพังเพย แต่มีเนื้อความหรือความหมายที่ดี เป็นคำตักเตือนสั่งสอน และสะกิดใจให้ระลึกถึงอยู่เสมอ มีอยู่ 2 ประเภท คือ
1. คำสุภาษิตประเภทที่ พูด อ่าน หรือเข้าใจเนื้อความได้ทันที โดยไม่ต้องแปลความหมาย ตีความหมายเช่น ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
2. คำสุภาษิตประเภทที่ พูด อ่าน หรือฟังแล้วยังไม่เข้าใจเนื้อความนั้นในทันที ต้องนึกตรึกตรอง ต้องแปลความ ตีความหมายเสียก่อนจึงจะทราบเนื้อแท้ของคำเหล่านั้น เช่น ผีบ้านไม่ดีผีป่าก็พลอย
สำนวน
ความหมาย ได้แก่คำที่พูดหรือกล่าวออกมาทำนองเป็นโวหาร เป็นคำพังเพยเปรียบเทียบ จึงฟังแล้วมักจะ ไม่ได้ความหมายของตัวมันเอง ต้องนำไปประกอบกับบุคคล กับเรื่อง หรือเหตุการณ์จึงจะได้ความหมายเป็น คติ เตือนใจเช่นเดียวกับคำที่เป็นสุภาษิต
คำพังเพย
หมายถึง ถ้อยคำที่เรียบเรียงขึ้นมาเป็นความหมายกลาง ๆ คือ ไม่เน้นการสั่งสอน แต่ก็แฝงคติเตือนใจหรือ ข้อคิดสะกิดใจให้นำไปปฏิบัติได้ และ เนื้อหาของใจความนั้นก็ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นความดี หรือ ความจริงแท้ แน่นอน
คำคม
หมายถึง ถ้อยคำที่คิดขึ้นมาในปัจจุบันทันด่วน เป็นถ้อยคำที่หลักแหลม ซึ่งสามารถเข้ากับเหตุการณ์นั้น ได้อย่างเหมาะเจาะ ทั้งยังชวนให้คิด ถ้าพูดติดปากกันต่อไปก็จะกลายเป็นสำนวนไปได้
MG_PlayBoy- Admin Tee
- จำนวนข้อความ : 479
Join date : 18/10/2008
ที่อยู่ : Rainbow Temple ~๐•๐~วิหารสีรุ้ง~๐•๐~
Re: สาระน่ารู้ หรือ รกสมอง
เกรียน
เกรียน เป็นศัพท์สแลงแทนบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ก่อกวน ไร้เหตุผล หรือคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของสังคมอินเทอร์เน็ต บุคคลกลุ่มนี้จะใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลหรือการวิเคราะห์ไตร่ตรอง อาจหมายถึงคนที่ชอบแสดงตัวว่ามีความรู้
ในช่วงแร็กนาร็อกออนไลน์เป็นที่นิยมในระยะแรกๆ เยาวชนที่เล่นเกมนี้ยังไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอที่จะจัดสรรเวลาและค่าใช้จ่ายของตน เพื่อที่จะเล่นในร้านอินเทอร์เน็ตหรือที่บ้าน กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) จึงเข้ามาดูแลส่วนนี้โดยตรง โดยออกข้อบังคับบางประการ เช่น ห้ามเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีเล่นเกมออนไลน์ทุกประเภทหลัง 22 นาฬิกา หรือห้ามเล่นเกิน 3 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งข้อบังคับนี้ส่งผลกระทบต่อเยาวชนที่ติดเกมดังกล่าว เยาวชนบางส่วนจึงเข้าไปพูดคุยกันในเว็บบอร์ดของประมูลดอตคอมในลักษณะของการระบายอารมณ์และกล่าวโจมตีกระทรวงไอซีที ซึ่งจุดมุ่งหมายของเว็บไซต์ดังกล่าวคือการซื้อขายสินค้าเท่านั้น แต่ภายหลังเว็บบอร์ดนั้นกลายเป็นที่รวมการแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวของเยาวชนที่ขาดการควบคุมดูแล และได้มีการกล่าวคำหนึ่งขึ้นว่า "เกรียน" เพื่อเป็นการดูแคลนเยาวชนเหล่านั้น และคำนี้ได้ถูกนำไปใช้กันอย่างกว้างขวางในเว็บบอร์ดหรือเกมออนไลน์ต่างๆ
คำว่า เกรียน อาจมีที่มาจากทัศนคติของเด็กชายที่ตัดผมสั้นหัวเกรียน (ตามความหมายเดิมของพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานว่า สั้นเกือบติดหนังหัว ผิวหนัง หรือพื้นที่) ซึ่งมักจะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวในร้านอินเทอร์เน็ตที่ให้บริการเกมออนไลน์อยู่บ่อยๆ เนื่องจากความไม่พอใจในสถานการณ์บางอย่าง เช่นขณะเล่นเกม หรือความต้องการที่จะก่อกวนผู้อื่น และเมื่อถูกใช้บ่อยครั้งเข้า คำนี้จึงใช้แทนกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมเหล่านั้นไปเสีย โดยไม่คำนึงถึงอายุหรือวุฒิภาวะอย่างไรก็ตาม กลุ่มบุคคลเหล่านั้นมักไม่พอใจที่ถูกเรียกว่าเกรียน ซึ่งดูเหมือนเป็นการแบ่งแยกทางสังคม บางครั้งก็กลับเรียกบุคคลอื่นว่าเป็นเกรียนก็มี และเนื่องด้วยนิสัยส่วนตัวที่คิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลาง เกรียนจึงใช้ศัพท์สแลงแทนตัวอีกคำหนึ่งคือ เทพ เช่น เกรียนเทพ เป็นต้น ซึ่งใช้เปรียบว่าตนเองมีอำนาจหรือมีความยิ่งใหญ่เหนือกว่าผู้อื่น และมองผู้อื่นว่าด้อยกว่าตน เนื่องจากจุดเริ่มต้นที่เว็บไซต์หรือระบบในเกมออนไลน์บางแห่งไม่รองรับอักษรไทย จึงเขียนเป็น Inw (ไอ เอ็น ดับเบิลยู) ในลักษณะลีทซึ่งคล้ายคำว่า เทพ คำนี้สามารถพบเห็นได้บ่อยพอๆ กับคำว่าเกรียนและถูกใช้ควบคู่กันเรื่อยมา
เกรียนอาจจัดได้ว่าเป็น "นูบ" (noob) ประเภทหนึ่ง ซึ่งอาจใช้ในความหมายเชิงดูหมิ่น แผลงมาจากคำว่า "นิวบี" หรือ "นูบี" (newbie: อเมริกันอ่านว่า นูบี อังกฤษอ่านว่า นิวบี) คือ ผู้มาใหม่ คนไม่ประสีประสา หมายถึงบุคคลในอินเทอร์เน็ตที่เป็นสมาชิกใหม่ในเว็บบอร์ดหรือเกมออนไลน์หนึ่งๆ ที่ยังไม่รู้จักธรรมเนียมและมารยาทในสังคมนั้น และทำสิ่งที่ผิดพลาดในเรื่องที่ไม่สมควรจะผิดพลาด เป็นต้น
บุคลิกภาพของเกรียน
บุคคลที่อยู่ในสภาวะเกรียน อาจมีบุคลิกภาพต่อไปนี้มากกว่า 1 ข้อ
1.มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ถึงขั้นที่เชื่อว่าตนเองเป็นฝ่ายถูกเสมอ หรือสร้างความน่าเชื่อถือให้ตัวเอง
2.มี EQ ต่ำ เนื่องจากจะแสดงออกตามอารมณ์เป็นที่ตั้ง โดยไม่คำนึงถึงเหตุผล มีความอดทนต่อสิ่งเร้าภายนอกน้อยกว่าบุคคลปกติ
3.ใช้การแสดงออกทางวาจา (หรือข้อความที่พิมพ์) มากกว่าทางความคิด และใช้คำหยาบคายบ่อยครั้ง
4.ไม่รู้จักมารยาทในสังคม สร้างความรำคาญและไม่คิดถึงความทุกข์ร้อนของคนรอบข้าง
5.ชอบเรียกร้องความสนใจ สร้างประเด็นปัญหา ทำให้เกิดข้อขัดแย้งและการทะเลาะวิวาท
6.มักจะรวมกลุ่มระหว่างเกรียนกันเอง เนื่องจากผู้อื่นไม่คบหาสมาคม
7.ชอบคิดว่าผู้อื่นด้อยกว่าตน มักจะพยายามหาทางดูถูกผู้อื่นทุกด้าน และจะคิดว่าตนนั้นมีทุกอย่างสมบูรณ์เสมอ
8.พบได้ทั่วไปตามบอร์ดเช่น บอร์ดประมูล และบอร์ดนี้อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของเกรียน
ขอบคุณข้อมูล อ้างอิงจาก วิกิพีเดีย wikipedia
เกรียน เป็นศัพท์สแลงแทนบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ก่อกวน ไร้เหตุผล หรือคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของสังคมอินเทอร์เน็ต บุคคลกลุ่มนี้จะใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลหรือการวิเคราะห์ไตร่ตรอง อาจหมายถึงคนที่ชอบแสดงตัวว่ามีความรู้
ในช่วงแร็กนาร็อกออนไลน์เป็นที่นิยมในระยะแรกๆ เยาวชนที่เล่นเกมนี้ยังไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอที่จะจัดสรรเวลาและค่าใช้จ่ายของตน เพื่อที่จะเล่นในร้านอินเทอร์เน็ตหรือที่บ้าน กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) จึงเข้ามาดูแลส่วนนี้โดยตรง โดยออกข้อบังคับบางประการ เช่น ห้ามเยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีเล่นเกมออนไลน์ทุกประเภทหลัง 22 นาฬิกา หรือห้ามเล่นเกิน 3 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งข้อบังคับนี้ส่งผลกระทบต่อเยาวชนที่ติดเกมดังกล่าว เยาวชนบางส่วนจึงเข้าไปพูดคุยกันในเว็บบอร์ดของประมูลดอตคอมในลักษณะของการระบายอารมณ์และกล่าวโจมตีกระทรวงไอซีที ซึ่งจุดมุ่งหมายของเว็บไซต์ดังกล่าวคือการซื้อขายสินค้าเท่านั้น แต่ภายหลังเว็บบอร์ดนั้นกลายเป็นที่รวมการแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวของเยาวชนที่ขาดการควบคุมดูแล และได้มีการกล่าวคำหนึ่งขึ้นว่า "เกรียน" เพื่อเป็นการดูแคลนเยาวชนเหล่านั้น และคำนี้ได้ถูกนำไปใช้กันอย่างกว้างขวางในเว็บบอร์ดหรือเกมออนไลน์ต่างๆ
คำว่า เกรียน อาจมีที่มาจากทัศนคติของเด็กชายที่ตัดผมสั้นหัวเกรียน (ตามความหมายเดิมของพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานว่า สั้นเกือบติดหนังหัว ผิวหนัง หรือพื้นที่) ซึ่งมักจะแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวในร้านอินเทอร์เน็ตที่ให้บริการเกมออนไลน์อยู่บ่อยๆ เนื่องจากความไม่พอใจในสถานการณ์บางอย่าง เช่นขณะเล่นเกม หรือความต้องการที่จะก่อกวนผู้อื่น และเมื่อถูกใช้บ่อยครั้งเข้า คำนี้จึงใช้แทนกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมเหล่านั้นไปเสีย โดยไม่คำนึงถึงอายุหรือวุฒิภาวะอย่างไรก็ตาม กลุ่มบุคคลเหล่านั้นมักไม่พอใจที่ถูกเรียกว่าเกรียน ซึ่งดูเหมือนเป็นการแบ่งแยกทางสังคม บางครั้งก็กลับเรียกบุคคลอื่นว่าเป็นเกรียนก็มี และเนื่องด้วยนิสัยส่วนตัวที่คิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลาง เกรียนจึงใช้ศัพท์สแลงแทนตัวอีกคำหนึ่งคือ เทพ เช่น เกรียนเทพ เป็นต้น ซึ่งใช้เปรียบว่าตนเองมีอำนาจหรือมีความยิ่งใหญ่เหนือกว่าผู้อื่น และมองผู้อื่นว่าด้อยกว่าตน เนื่องจากจุดเริ่มต้นที่เว็บไซต์หรือระบบในเกมออนไลน์บางแห่งไม่รองรับอักษรไทย จึงเขียนเป็น Inw (ไอ เอ็น ดับเบิลยู) ในลักษณะลีทซึ่งคล้ายคำว่า เทพ คำนี้สามารถพบเห็นได้บ่อยพอๆ กับคำว่าเกรียนและถูกใช้ควบคู่กันเรื่อยมา
เกรียนอาจจัดได้ว่าเป็น "นูบ" (noob) ประเภทหนึ่ง ซึ่งอาจใช้ในความหมายเชิงดูหมิ่น แผลงมาจากคำว่า "นิวบี" หรือ "นูบี" (newbie: อเมริกันอ่านว่า นูบี อังกฤษอ่านว่า นิวบี) คือ ผู้มาใหม่ คนไม่ประสีประสา หมายถึงบุคคลในอินเทอร์เน็ตที่เป็นสมาชิกใหม่ในเว็บบอร์ดหรือเกมออนไลน์หนึ่งๆ ที่ยังไม่รู้จักธรรมเนียมและมารยาทในสังคมนั้น และทำสิ่งที่ผิดพลาดในเรื่องที่ไม่สมควรจะผิดพลาด เป็นต้น
บุคลิกภาพของเกรียน
บุคคลที่อยู่ในสภาวะเกรียน อาจมีบุคลิกภาพต่อไปนี้มากกว่า 1 ข้อ
1.มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง ถึงขั้นที่เชื่อว่าตนเองเป็นฝ่ายถูกเสมอ หรือสร้างความน่าเชื่อถือให้ตัวเอง
2.มี EQ ต่ำ เนื่องจากจะแสดงออกตามอารมณ์เป็นที่ตั้ง โดยไม่คำนึงถึงเหตุผล มีความอดทนต่อสิ่งเร้าภายนอกน้อยกว่าบุคคลปกติ
3.ใช้การแสดงออกทางวาจา (หรือข้อความที่พิมพ์) มากกว่าทางความคิด และใช้คำหยาบคายบ่อยครั้ง
4.ไม่รู้จักมารยาทในสังคม สร้างความรำคาญและไม่คิดถึงความทุกข์ร้อนของคนรอบข้าง
5.ชอบเรียกร้องความสนใจ สร้างประเด็นปัญหา ทำให้เกิดข้อขัดแย้งและการทะเลาะวิวาท
6.มักจะรวมกลุ่มระหว่างเกรียนกันเอง เนื่องจากผู้อื่นไม่คบหาสมาคม
7.ชอบคิดว่าผู้อื่นด้อยกว่าตน มักจะพยายามหาทางดูถูกผู้อื่นทุกด้าน และจะคิดว่าตนนั้นมีทุกอย่างสมบูรณ์เสมอ
8.พบได้ทั่วไปตามบอร์ดเช่น บอร์ดประมูล และบอร์ดนี้อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของเกรียน
ขอบคุณข้อมูล อ้างอิงจาก วิกิพีเดีย wikipedia
MG_PlayBoy- Admin Tee
- จำนวนข้อความ : 479
Join date : 18/10/2008
ที่อยู่ : Rainbow Temple ~๐•๐~วิหารสีรุ้ง~๐•๐~
Re: สาระน่ารู้ หรือ รกสมอง
กฏแห่งเกรียน
ภาษาไทยวันละคำวันนี้ขอเสนอคำว่า เกรียน หากเปิดหาคำนี้ใน พจนานุกรรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 หน้า 141 จะพบว่าถูกนิยามความหมายไว้ 3 ความหมายด้วยกันดังนี้
เกรียน ๑ [เกรียน] ว. สั้นเกือบติดหนังหัว ผิวหนังหรือ พื้นที่ เช่น ผมเกรียน หมาขนเกรียน หญ้าเกรียน
เกรียน ๒ [เกรียน] ดู เลี่ยน ๑.
เกรียน ๓ [เกรียน] น. แป้งซึ่งนวดด้วยน้ำร้อนแล้วไม่น่ายเป็นเม็ดปนอยู่ เม็ดนั้นเรียกว่า เกรียน; เรียกปลายข้าวขนาดเล็กว่า ข้าวปลายเรียน
แต่วันนี้ผมไม่ได้มาพูดถึงคำนี้ตามที่พจนานุกรรมให้นิยามไว้หรอกนะครับ แต่ผมขอพูดถึงมันในแง่มุมของมนุษย์ Cyber กันดีกว่า
เราจะมาค้นหาความหมายของมันกันและเมื่อรู้ความหมายแล้วอย่าลืมสำรวจตัวเองด้วยนะว่าคุณ “เกรียนหรือเปล่า”
ต้นกำเนิดแห่ง เกรียน
เกรียน คำนี้มีต้นกำเนิดมาจากที่ใดไม่มีหลักฐานระบุชี้ชัดได้ แต่ที่แน่ๆ บนศิลาจารึก หลักไหนๆ ก็คงไม่มีคำๆ นี้ปรากฏอยู่เป็นแน่ ผู้คว่ำวอร์ดในวงการณ์เกมบางคนบอกว่า
พบเห็นคำนี้ครั้งแรกมาจากเกมออนไลน์ที่มีผู้นิยมเล่นสูงสุดเกมหนึ่ง ส่วนผู้คว่ำวอร์ดในวงการณ์บอร์ดบอกว่าเห็นครั้งแรกในเว็บซื้อขายแลกเปลี่ยนที่มีผู้ใช้มากที่สุดแห่งหนึ่ง
ผมจึงไม่สามารถอ้างอิงได้ว่ามันมีต้นกำเนิดจากที่ใดกันแน่ รู้แต่เพียงว่าวันนี้มันถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย
การขยายตัวของ เกรียน
เกรียน ไม่ใช่คำด่าพร่ำเพรื่อเหมือนอย่างคำด่าอื่นๆ ที่เราคุ้นเคยมาตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแห่ง แต่เป็นคำที่ใช้ เฉพาะเจาะจงสำหรับกลุ่มคนประเภทหนึ่ง
กลุ่มคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนพิเศษนักวิชาการบางท่านบอกว่า เป็นอาการของคนที่เสพหญ้ามากเกินไป จนคอโรฟิวในหญ้าไปอุดตันสมอง จนส่งผลให้การทำงานของสมองซีกขวา
ซึ่งเป็นสมองด้านของเหตุผลและการเรียนรู้ หดตัวลง ในขณะที่สมองซีกซ้ายที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการใช้อารมณ์ขยายตัวใหญ่ขึ้น จึงส่งผลให้คนกลุ่มนี้ใช้แต่อารมณ์มากกว่าเหตุผลและการวิเคราะห์ไตร่ตรอง
ดังจะพบพฤติกรรมดังกล่าวได้บ่อยๆ ในเกมออนไลน์ หรือตามเว็บบอร์ดทั่วไป สาเหตุที่ทำให้คำนี้เกิดการใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้นไม่ใช่เพราะมันถูกนำมาใช้เป็นคำแฟชั่น
หากแต่กลุ่มคนประเภทดังกล่าวขยายตัวมากขึ้นและลุกลามอย่างรวดเร็วจนยากที่จะหยุดยั้งได้ต่างหาก
กลุ่มที่อยู่ในสภาวะ เกรียน
หลายคนอาจจะเข้าใจผิดจนเหมารวมไปเลยว่า เกรียน คือ กลุ่มเด็ก ตั้งแต่ ป.1 จนถึง มัธยมปลาย ที่ตัดผมสั้นเกรียน สาเหตุที่หลายคนตีความแบบนั้นอาจจะเป็นด้วยลักษณะทางกายภาพที่โดดเด่น
คือทรงผมที่เลี่ยนเกรียนติดหนังหัว ซึ่งความจริงแล้วตาม “กฎของ เกรียน” หรือ “เกรียน Law” นั้นลักษณะดังกล่าวเป็นเพียงรากศัพท์ของคำว่า เกรียน เท่านั้นเอง
หากแต่ในความเป็นจริง ตามหลักของ “เกรียน Law” คือ “ความเกรียนไม่จำกัด ทรงผม อายุ เพศ หรือ ฐานะ ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมในความเกรียนเหมือนกันหมด” ดังนั้นจึงพอจะสรุปได้ว่า
สภาวะเกรียน เป็นสภาวะของพฤติกรรม ทางความคิด หาใช่ลักษณะทางกายภาพอย่างที่หลายคนเข้าใจกันไม่
ทำไมต้อง เกรียน
หลังจากที่ได้ทำการศึกษาและค้นคว้าเป็นเวลาหลายวันผมได้พบว่า คำเหยียดสติปัญญาคำนี้เกิดขึ้นด้วยสาเหตุที่ว่า กลุ่มคนที่อยู่ในสภาวะเกรียนส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก
และเป็นกลุ่มเด็กที่เล่นเกมออนไลน์ อาจจะด้วยเพราะเกมออนไลน์ในบ้านเรา เปิดกว้างมากจนเกินไป จนเกิดการกระจุกตัวทางการแสดงออกในสถานที่เดียวกัน
จนเมื่อเด็กๆ เกิดการคลุกคลีกับพฤติกรรมไม่เหมาะสมบ่อยๆ จึงดูดซึมพฤติกรรมเลวร้ายเหล่านั้นมาใช้โดยไม่มีคนคอยให้คำแนะนำ โดยพฤติกรรที่เราจะพบเห็นได้จากเด็กที่อยู่ในสภาวะเกรียนก็คือ
การกระทำที่ไร้ความคิด พฤติกรรมไร้เหตุผล พฤติกรรมก้าวร้าวทางคำพูดและความคิด เมื่อเข้าสู่สภาวะเกรียนสมองซีกซ้ายจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว
จนบางครั้งคนที่อยู่ข้างๆ ต้องเข้าระงับสติด้วยการ เบิร์ดกระบาล ซีกซ้ายซะหนึ่งที ก่อนที่อาการจะลุกลามถึงขั้น “โคบ้า” ถ้าเป็นพวกวิกฤติหนักๆ ก็อาจจะกลายเป็น “กระบือบ้า” ได้เหมือนกัน
อาการที่เรียกว่า เกรียน
-กลุ่ม เกรียน มักจะมีความเชื่อมั่นตัวเองสูงในจินตนาการ แต่ปฏิบัติตัวตรงกันข้าม อยากเทพแต่ทำตัวถ่อย เกรียนประเภทนี้มีคนให้นิยามจำแนกออกมาเป็น กลุ่ม เทพเกรียน หรือ King of เกรียน หรือ เกรียน เหนือ เกรียน
-กลุ่ม เกรียน มักจะมีความอดทนต่อสิ่งเร้าภายนอกน้อยกว่าบุคคลปกติ และควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้ มักแสดงออกทางคำพูด มากกว่าทางความคิด
หรือทีเรียกว่า “พูดโดยไม่คิด” ในบางรายจะชอบด่าทอผู้อื่นแบบไร้เหตุผล โดยเชื่อมั่นว่าตัวเองถูกเสมอ จนบางครั้งก้าวล่วงไปถึงบุพการีของผู้อื่น
- ชาวเกรียนจะมีความสุขไปกับการ ด่าคนแบบไร้ เหตุผล และอดีนาลีนของชาวเกรียนจะสูบฉีดรุนแรงขึ้นเมื่อถูกด่าตอบ ชาวเกรียนมีพฤติกรรมที่ชอบเรียกร้องความสนใจ
ดังจะพบได้ตามเว็บบอร์ด ในกระทู้ดักควายต่างๆ พอเห็นคนเข้ามาด่าก็นั่งยิ้มชื่นใจ จนกลายเป็นค่านิยมเสพติดของพวกเค้าไปแล้ว
-อาการหนึ่งที่เห็นได้ชัดจาก กลุ่มเกรียนคือจะเป็นกลุ่มคนที่มี IQ และ EQ ต่ำ เนื่องจากไม่ค่อยชอบใช้ความคิด ชอบใช้แต่อารมณ์ สมองไม่สามารถดูดซึมเหตุผลเข้าไปได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องปลุกเร้าอารมณ์ก้าวร้าวจะตื่นตัวในทันที
จะหลีกเลี่ยงสภาวะ เกรียน อย่างไร
สภาวะเกรียนสามารถป้องกันได้โดยการสร้าง “ภูมิคุ้มกันโรคเกรียน” การแบ่งเวลาในการใช้ชีวิตประจำวันเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างภูมิคุ้มกันโรคเกรียน
การอ่านหนังสือ สะสมความรู้ ใช้สมองซีกขวาในการตัดสินใจ คิดวิเคราะห์ต่างๆ รู้จักระงับอารมณ์ การเป็นคนมีเหตุผล เปิดโอกาสในการรับฟังผู้อื่น
เหล่านี้คือผู้ที่จะสามารถหลุดพ้นสภาวะเกรียนได้ นักวิชากรหลายท่านบอกว่า สภาวะเกรียนในเด็กจะหมดไปเมื่อพวกเค้าบรรลุนิติภาวะ
แต่ในทัศนะของผมแล้ว การจะหลุดพ้นสภาวะเกรียนได้คุณจะต้องบรรลุนิติภาวะทางความคิด ไม่ใช่อายุ เพราะอย่าลืมว่า ความเกรียนมีอิสระเสรี สามารถเข้าสู่ทุกคนได้ หากคุณมีพฤติกรรมต่างๆ
ดังที่ผมได้กล่าวมาแล้วนั้นโปรดระลึกว่า สภาวะเกรียนได้ย่างกรายมาสู่คุณแล้ว อย่าปล่อยให้มันฝังรากเข้าสู่กมลสันดารของเราได้ รีบสะบัดมันให้หลุดพ้น ก่อนที่ชื่อของเราจะถูกเปลี่ยนเป็น “ไอ้เกรียน”
เครดิต: Ball The One
Post ครั้งแรกที่ Lineage2.in.th
ภาษาไทยวันละคำวันนี้ขอเสนอคำว่า เกรียน หากเปิดหาคำนี้ใน พจนานุกรรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 หน้า 141 จะพบว่าถูกนิยามความหมายไว้ 3 ความหมายด้วยกันดังนี้
เกรียน ๑ [เกรียน] ว. สั้นเกือบติดหนังหัว ผิวหนังหรือ พื้นที่ เช่น ผมเกรียน หมาขนเกรียน หญ้าเกรียน
เกรียน ๒ [เกรียน] ดู เลี่ยน ๑.
เกรียน ๓ [เกรียน] น. แป้งซึ่งนวดด้วยน้ำร้อนแล้วไม่น่ายเป็นเม็ดปนอยู่ เม็ดนั้นเรียกว่า เกรียน; เรียกปลายข้าวขนาดเล็กว่า ข้าวปลายเรียน
แต่วันนี้ผมไม่ได้มาพูดถึงคำนี้ตามที่พจนานุกรรมให้นิยามไว้หรอกนะครับ แต่ผมขอพูดถึงมันในแง่มุมของมนุษย์ Cyber กันดีกว่า
เราจะมาค้นหาความหมายของมันกันและเมื่อรู้ความหมายแล้วอย่าลืมสำรวจตัวเองด้วยนะว่าคุณ “เกรียนหรือเปล่า”
ต้นกำเนิดแห่ง เกรียน
เกรียน คำนี้มีต้นกำเนิดมาจากที่ใดไม่มีหลักฐานระบุชี้ชัดได้ แต่ที่แน่ๆ บนศิลาจารึก หลักไหนๆ ก็คงไม่มีคำๆ นี้ปรากฏอยู่เป็นแน่ ผู้คว่ำวอร์ดในวงการณ์เกมบางคนบอกว่า
พบเห็นคำนี้ครั้งแรกมาจากเกมออนไลน์ที่มีผู้นิยมเล่นสูงสุดเกมหนึ่ง ส่วนผู้คว่ำวอร์ดในวงการณ์บอร์ดบอกว่าเห็นครั้งแรกในเว็บซื้อขายแลกเปลี่ยนที่มีผู้ใช้มากที่สุดแห่งหนึ่ง
ผมจึงไม่สามารถอ้างอิงได้ว่ามันมีต้นกำเนิดจากที่ใดกันแน่ รู้แต่เพียงว่าวันนี้มันถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย
การขยายตัวของ เกรียน
เกรียน ไม่ใช่คำด่าพร่ำเพรื่อเหมือนอย่างคำด่าอื่นๆ ที่เราคุ้นเคยมาตั้งแต่สมัยพ่อขุนรามคำแห่ง แต่เป็นคำที่ใช้ เฉพาะเจาะจงสำหรับกลุ่มคนประเภทหนึ่ง
กลุ่มคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มคนพิเศษนักวิชาการบางท่านบอกว่า เป็นอาการของคนที่เสพหญ้ามากเกินไป จนคอโรฟิวในหญ้าไปอุดตันสมอง จนส่งผลให้การทำงานของสมองซีกขวา
ซึ่งเป็นสมองด้านของเหตุผลและการเรียนรู้ หดตัวลง ในขณะที่สมองซีกซ้ายที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการใช้อารมณ์ขยายตัวใหญ่ขึ้น จึงส่งผลให้คนกลุ่มนี้ใช้แต่อารมณ์มากกว่าเหตุผลและการวิเคราะห์ไตร่ตรอง
ดังจะพบพฤติกรรมดังกล่าวได้บ่อยๆ ในเกมออนไลน์ หรือตามเว็บบอร์ดทั่วไป สาเหตุที่ทำให้คำนี้เกิดการใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้นไม่ใช่เพราะมันถูกนำมาใช้เป็นคำแฟชั่น
หากแต่กลุ่มคนประเภทดังกล่าวขยายตัวมากขึ้นและลุกลามอย่างรวดเร็วจนยากที่จะหยุดยั้งได้ต่างหาก
กลุ่มที่อยู่ในสภาวะ เกรียน
หลายคนอาจจะเข้าใจผิดจนเหมารวมไปเลยว่า เกรียน คือ กลุ่มเด็ก ตั้งแต่ ป.1 จนถึง มัธยมปลาย ที่ตัดผมสั้นเกรียน สาเหตุที่หลายคนตีความแบบนั้นอาจจะเป็นด้วยลักษณะทางกายภาพที่โดดเด่น
คือทรงผมที่เลี่ยนเกรียนติดหนังหัว ซึ่งความจริงแล้วตาม “กฎของ เกรียน” หรือ “เกรียน Law” นั้นลักษณะดังกล่าวเป็นเพียงรากศัพท์ของคำว่า เกรียน เท่านั้นเอง
หากแต่ในความเป็นจริง ตามหลักของ “เกรียน Law” คือ “ความเกรียนไม่จำกัด ทรงผม อายุ เพศ หรือ ฐานะ ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมในความเกรียนเหมือนกันหมด” ดังนั้นจึงพอจะสรุปได้ว่า
สภาวะเกรียน เป็นสภาวะของพฤติกรรม ทางความคิด หาใช่ลักษณะทางกายภาพอย่างที่หลายคนเข้าใจกันไม่
ทำไมต้อง เกรียน
หลังจากที่ได้ทำการศึกษาและค้นคว้าเป็นเวลาหลายวันผมได้พบว่า คำเหยียดสติปัญญาคำนี้เกิดขึ้นด้วยสาเหตุที่ว่า กลุ่มคนที่อยู่ในสภาวะเกรียนส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก
และเป็นกลุ่มเด็กที่เล่นเกมออนไลน์ อาจจะด้วยเพราะเกมออนไลน์ในบ้านเรา เปิดกว้างมากจนเกินไป จนเกิดการกระจุกตัวทางการแสดงออกในสถานที่เดียวกัน
จนเมื่อเด็กๆ เกิดการคลุกคลีกับพฤติกรรมไม่เหมาะสมบ่อยๆ จึงดูดซึมพฤติกรรมเลวร้ายเหล่านั้นมาใช้โดยไม่มีคนคอยให้คำแนะนำ โดยพฤติกรรที่เราจะพบเห็นได้จากเด็กที่อยู่ในสภาวะเกรียนก็คือ
การกระทำที่ไร้ความคิด พฤติกรรมไร้เหตุผล พฤติกรรมก้าวร้าวทางคำพูดและความคิด เมื่อเข้าสู่สภาวะเกรียนสมองซีกซ้ายจะขยายตัวอย่างรวดเร็ว
จนบางครั้งคนที่อยู่ข้างๆ ต้องเข้าระงับสติด้วยการ เบิร์ดกระบาล ซีกซ้ายซะหนึ่งที ก่อนที่อาการจะลุกลามถึงขั้น “โคบ้า” ถ้าเป็นพวกวิกฤติหนักๆ ก็อาจจะกลายเป็น “กระบือบ้า” ได้เหมือนกัน
อาการที่เรียกว่า เกรียน
-กลุ่ม เกรียน มักจะมีความเชื่อมั่นตัวเองสูงในจินตนาการ แต่ปฏิบัติตัวตรงกันข้าม อยากเทพแต่ทำตัวถ่อย เกรียนประเภทนี้มีคนให้นิยามจำแนกออกมาเป็น กลุ่ม เทพเกรียน หรือ King of เกรียน หรือ เกรียน เหนือ เกรียน
-กลุ่ม เกรียน มักจะมีความอดทนต่อสิ่งเร้าภายนอกน้อยกว่าบุคคลปกติ และควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ค่อยได้ มักแสดงออกทางคำพูด มากกว่าทางความคิด
หรือทีเรียกว่า “พูดโดยไม่คิด” ในบางรายจะชอบด่าทอผู้อื่นแบบไร้เหตุผล โดยเชื่อมั่นว่าตัวเองถูกเสมอ จนบางครั้งก้าวล่วงไปถึงบุพการีของผู้อื่น
- ชาวเกรียนจะมีความสุขไปกับการ ด่าคนแบบไร้ เหตุผล และอดีนาลีนของชาวเกรียนจะสูบฉีดรุนแรงขึ้นเมื่อถูกด่าตอบ ชาวเกรียนมีพฤติกรรมที่ชอบเรียกร้องความสนใจ
ดังจะพบได้ตามเว็บบอร์ด ในกระทู้ดักควายต่างๆ พอเห็นคนเข้ามาด่าก็นั่งยิ้มชื่นใจ จนกลายเป็นค่านิยมเสพติดของพวกเค้าไปแล้ว
-อาการหนึ่งที่เห็นได้ชัดจาก กลุ่มเกรียนคือจะเป็นกลุ่มคนที่มี IQ และ EQ ต่ำ เนื่องจากไม่ค่อยชอบใช้ความคิด ชอบใช้แต่อารมณ์ สมองไม่สามารถดูดซึมเหตุผลเข้าไปได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องปลุกเร้าอารมณ์ก้าวร้าวจะตื่นตัวในทันที
จะหลีกเลี่ยงสภาวะ เกรียน อย่างไร
สภาวะเกรียนสามารถป้องกันได้โดยการสร้าง “ภูมิคุ้มกันโรคเกรียน” การแบ่งเวลาในการใช้ชีวิตประจำวันเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างภูมิคุ้มกันโรคเกรียน
การอ่านหนังสือ สะสมความรู้ ใช้สมองซีกขวาในการตัดสินใจ คิดวิเคราะห์ต่างๆ รู้จักระงับอารมณ์ การเป็นคนมีเหตุผล เปิดโอกาสในการรับฟังผู้อื่น
เหล่านี้คือผู้ที่จะสามารถหลุดพ้นสภาวะเกรียนได้ นักวิชากรหลายท่านบอกว่า สภาวะเกรียนในเด็กจะหมดไปเมื่อพวกเค้าบรรลุนิติภาวะ
แต่ในทัศนะของผมแล้ว การจะหลุดพ้นสภาวะเกรียนได้คุณจะต้องบรรลุนิติภาวะทางความคิด ไม่ใช่อายุ เพราะอย่าลืมว่า ความเกรียนมีอิสระเสรี สามารถเข้าสู่ทุกคนได้ หากคุณมีพฤติกรรมต่างๆ
ดังที่ผมได้กล่าวมาแล้วนั้นโปรดระลึกว่า สภาวะเกรียนได้ย่างกรายมาสู่คุณแล้ว อย่าปล่อยให้มันฝังรากเข้าสู่กมลสันดารของเราได้ รีบสะบัดมันให้หลุดพ้น ก่อนที่ชื่อของเราจะถูกเปลี่ยนเป็น “ไอ้เกรียน”
เครดิต: Ball The One
Post ครั้งแรกที่ Lineage2.in.th
MG_PlayBoy- Admin Tee
- จำนวนข้อความ : 479
Join date : 18/10/2008
ที่อยู่ : Rainbow Temple ~๐•๐~วิหารสีรุ้ง~๐•๐~
Re: สาระน่ารู้ หรือ รกสมอง
วิธีอัดZip แบบแบ่งไฟล์
เอาละครับเรามาเฉลยกันเลย ถึงการอัดZipแบบแบ่งไฟล์นะครับ (ผมใช้โปรแกรมWinRARในการทำนะครับ)
1. เริ่มมาก็คลิกขวาที่ไฟล์ที่ต้องการจะบีบอัดนะครับแล้วเลือก ดังรูปด้านล่าง ที่เม้าส์ผมชี้ไว้อ่ะนะ
2. ก็จะปรากฎหน้าต่างดังรูปด้านล่างนะครับ
3. ก็เลือกตรงที่เม้าส์ผมชี้อยู่นั้นแหละครับ คือที่กำหนดขนาดไฟล์ต่อ 1 Part ครับ ดังรูปด้านล่าง
ซึ่งขนาดที่จะกำหนดนั่นหน่วยวัดคือ ไบท์ หน่วยวัดต่ำสุดของระบบคอมฯอ่ะนะ
เช่น จะเอา 30 MB ต่อหนึ่ง Part แค่เพียงพิมพ์ 30m ลงไป ก็ได้แล้วครับ
เอาละครับ จบการแถลงไขปัญหาข้อสงสัยเพียงเท่านี้ครับ มีปัญหาอะไรสามารถสอบถามมาได้นะครับ ถ้ารู้ก็จะมาบอกครับ
มีอะไรใหม่ๆจะเอามาเพิ่มเติมอีกครับ
เอาละครับเรามาเฉลยกันเลย ถึงการอัดZipแบบแบ่งไฟล์นะครับ (ผมใช้โปรแกรมWinRARในการทำนะครับ)
1. เริ่มมาก็คลิกขวาที่ไฟล์ที่ต้องการจะบีบอัดนะครับแล้วเลือก ดังรูปด้านล่าง ที่เม้าส์ผมชี้ไว้อ่ะนะ
2. ก็จะปรากฎหน้าต่างดังรูปด้านล่างนะครับ
3. ก็เลือกตรงที่เม้าส์ผมชี้อยู่นั้นแหละครับ คือที่กำหนดขนาดไฟล์ต่อ 1 Part ครับ ดังรูปด้านล่าง
ซึ่งขนาดที่จะกำหนดนั่นหน่วยวัดคือ ไบท์ หน่วยวัดต่ำสุดของระบบคอมฯอ่ะนะ
เช่น จะเอา 30 MB ต่อหนึ่ง Part แค่เพียงพิมพ์ 30m ลงไป ก็ได้แล้วครับ
เอาละครับ จบการแถลงไขปัญหาข้อสงสัยเพียงเท่านี้ครับ มีปัญหาอะไรสามารถสอบถามมาได้นะครับ ถ้ารู้ก็จะมาบอกครับ
มีอะไรใหม่ๆจะเอามาเพิ่มเติมอีกครับ
MG_PlayBoy- Admin Tee
- จำนวนข้อความ : 479
Join date : 18/10/2008
ที่อยู่ : Rainbow Temple ~๐•๐~วิหารสีรุ้ง~๐•๐~
Re: สาระน่ารู้ หรือ รกสมอง
ศัพท์โรงเรียนเรา เกรียน+เกรียน+เกรียน= เกรี๊ยน(พูดห้วนๆหน่อยนะ)
ไม่รู้ใครคิด
ไม่รู้ใครคิด
DEATH- Member DD
- จำนวนข้อความ : 12
Join date : 28/11/2008
Re: สาระน่ารู้ หรือ รกสมอง
wiki มีลงด้วยหรอนี่ รากศัพท์ เกรียน - -
สรุปเรามาเรียนวิชา เกรียนศึกษา กานสินะ - - เอาตั้งแต่ จุดกำเนิด จนถึง สภาวะเกรียน + การแพร่พนธุ์ -*-
สรุปเรามาเรียนวิชา เกรียนศึกษา กานสินะ - - เอาตั้งแต่ จุดกำเนิด จนถึง สภาวะเกรียน + การแพร่พนธุ์ -*-
Rapiz- Importance
- จำนวนข้อความ : 291
Join date : 04/11/2008
Re: สาระน่ารู้ หรือ รกสมอง
ชอบตง เกรียนติบัตร เก๋าดี =v= เกรียนศึกษา มาแต่ เนิ่นๆ เลยแฮะ
UniVersE- จำนวนข้อความ : 4
Join date : 29/11/2008
Age : 31
ที่อยู่ : ห้องนอนจ๊ะ
Re: สาระน่ารู้ หรือ รกสมอง
ทีนี้นักเรียน เข้าใจคำ่า "เกรียน" กันดีหรือยังจ๊ะ > อาจารย์
เข้าใจแล้วค่าคุณครู > นักเรียน
ป๊าดดดดดดดดดดดด ก็ว่าไปนั้น
เข้าใจแล้วค่าคุณครู > นักเรียน
ป๊าดดดดดดดดดดดด ก็ว่าไปนั้น
Suku- Member DD
- จำนวนข้อความ : 17
Join date : 16/11/2008
Re: สาระน่ารู้ หรือ รกสมอง
แล้วคำว่า ต๋อย คืออะไรอ่ะคะ
valess- Knight of Mod
- จำนวนข้อความ : 568
Join date : 09/11/2008
ที่อยู่ : ณ.ห้วงแห่งความฝัน
Re: สาระน่ารู้ หรือ รกสมอง
valess พิมพ์ว่า:แล้วคำว่า ต๋อย คืออะไรอ่ะคะ
คำนี้ผมก็เพิ่งเคยเจอนี้แหละครับ เหอๆ ศัพท์ใหม่อีกแล้วเหรอ
รู้สึกมันจะมีอีกคำว่า ด๋อย อ่ะครับ ที่เห็นคนที่เล่นเกมส์ PatrixOnline เขาใช้กัน ผมก็ไม่รู้ว่าแปลว่าไรอ่ะนะ
ขอเวลาไปหาความหมายดูหน่อยละกัน เหอๆ ปวดหมอง
MG_PlayBoy- Admin Tee
- จำนวนข้อความ : 479
Join date : 18/10/2008
ที่อยู่ : Rainbow Temple ~๐•๐~วิหารสีรุ้ง~๐•๐~
Re: สาระน่ารู้ หรือ รกสมอง
เหอๆแต่ละความหมายนะครับ-*-
newlovenut14- Akatsuki Club
- จำนวนข้อความ : 239
Join date : 23/10/2008
Age : 30
ที่อยู่ : ศาสนจักรแห่งความมืด
Re: สาระน่ารู้ หรือ รกสมอง
ได้คำตอบมาละ
ด๋อย เป็นคำที่มาจากเกมส์ PatrixOnline คำนี้จะขึ้นมาเมื่อ ศัตรูใกล้จะตาย แล้วจะให้ตัวผู้เล่นกดใช้ท่าไม้ตายเพื่อ ฆ่าศัตรู
ด๋อย เป็นคำที่มาจากเกมส์ PatrixOnline คำนี้จะขึ้นมาเมื่อ ศัตรูใกล้จะตาย แล้วจะให้ตัวผู้เล่นกดใช้ท่าไม้ตายเพื่อ ฆ่าศัตรู
MG_PlayBoy- Admin Tee
- จำนวนข้อความ : 479
Join date : 18/10/2008
ที่อยู่ : Rainbow Temple ~๐•๐~วิหารสีรุ้ง~๐•๐~
yoman501- Grand Member DD
- จำนวนข้อความ : 143
Join date : 03/12/2008
ที่อยู่ : กลางสมรภูมิชีวิต
Re: สาระน่ารู้ หรือ รกสมอง
MG_PlayBoy พิมพ์ว่า:valess พิมพ์ว่า:แล้วคำว่า ต๋อย คืออะไรอ่ะคะ
คำนี้ผมก็เพิ่งเคยเจอนี้แหละครับ เหอๆ ศัพท์ใหม่อีกแล้วเหรอ
รู้สึกมันจะมีอีกคำว่า ด๋อย อ่ะครับ ที่เห็นคนที่เล่นเกมส์ PatrixOnline เขาใช้กัน ผมก็ไม่รู้ว่าแปลว่าไรอ่ะนะ
ขอเวลาไปหาความหมายดูหน่อยละกัน เหอๆ ปวดหมอง
เอารูปมาให้ดูค่ะ พอดีไปเจอในบอร์ดอื่น งงมากเลย มันมีด้วยเหรอ คำนี้อ่ะ
จะรอคำแปลนะคะ ขอบคุณค่ะ
valess- Knight of Mod
- จำนวนข้อความ : 568
Join date : 09/11/2008
ที่อยู่ : ณ.ห้วงแห่งความฝัน
Re: สาระน่ารู้ หรือ รกสมอง
'' มึนงง อ่านมากไปเริ่มสับสน สมองซีกซ้ายกับขวามานจะสลับข้างกันให้ได้ ตกลงนี้มายหัวข้ออาไรกานเีนียไม่น่าหลงเข้ามาอ่านเลย ขออีกที''(อ้วก)
^0^- Member DD
- จำนวนข้อความ : 14
Join date : 17/11/2008
Re: สาระน่ารู้ หรือ รกสมอง
อ่านๆไปเริ่มสับสนนิดๆ เกิดอาการมึนเนื่อง
ด้วยตัวอักษรหลุดมาจากไหนมิทราบยังกะ
นรกแตกเหอๆ เยอะมากครับขอบอก
ด้วยตัวอักษรหลุดมาจากไหนมิทราบยังกะ
นรกแตกเหอๆ เยอะมากครับขอบอก
igt9016- Member DD
- จำนวนข้อความ : 14
Join date : 04/12/2008
Re: สาระน่ารู้ หรือ รกสมอง
เยอะแล้วเรอะ ผมว่ายังน้อยนะ ยังมีเยอะกว่านี้อีก แต่ มันโพสได้ทีละนิดเดียวเลยเอามาลงแค่นี้ก่อนอ่ะ
MG_PlayBoy- Admin Tee
- จำนวนข้อความ : 479
Join date : 18/10/2008
ที่อยู่ : Rainbow Temple ~๐•๐~วิหารสีรุ้ง~๐•๐~
Re: สาระน่ารู้ หรือ รกสมอง
พึ่งจะรู้ความหมายเกรียนนี่หละ ครับ ขอบคุณมากๆ ได้อะไร ไปด่าเพื่อนละ
tanawat64- Member DD
- จำนวนข้อความ : 29
Join date : 27/11/2008
Re: สาระน่ารู้ หรือ รกสมอง
เพียบเลย- -*เล่นทำซะตาลายหมดเลย- -*อ่านแล้วทำให้สับสนเข้าไปใหญ่ เหอๆ
doraemon8746- Member DD
- จำนวนข้อความ : 22
Join date : 30/11/2008
Re: สาระน่ารู้ หรือ รกสมอง
เดียวนี้ศัพท์แปลกๆมาใหม่ เยอะ รู้บ้างไม่รู้บ้าง ขี้เกียจตาม
RABYO- Member DD
- จำนวนข้อความ : 47
Join date : 23/11/2008
Re: สาระน่ารู้ หรือ รกสมอง
ชอบไอ้ตรงคำนิยาม เกรียน จริงๆเลย
แบบว่าเกรียนเทพไรแบบนี้
แบบว่าเกรียนเทพไรแบบนี้
ZeeS- Tsundere Club
- จำนวนข้อความ : 69
Join date : 23/10/2008
Re: สาระน่ารู้ หรือ รกสมอง
ได้ความรู้คราบบ
ZeroForst- O~K~G CLUB
- จำนวนข้อความ : 330
Join date : 28/10/2008
ที่อยู่ : Over the TRUE ^^
Re: สาระน่ารู้ หรือ รกสมอง
โอ้ว
มันเปนเช่นนี้เองหรอนี้
บางคำเปนคำที่อยากรู้มานานและ
มันเปนเช่นนี้เองหรอนี้
บางคำเปนคำที่อยากรู้มานานและ
zenjedsada- Importance
- จำนวนข้อความ : 207
Join date : 24/10/2008
ที่อยู่ : โรงบาลบ้า(การ์ตูน)
หน้า 1 จาก 5 • 1, 2, 3, 4, 5
หน้า 1 จาก 5
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|